[Prichas]

เริมเป็นโรคติดโรคเชื้อไวรัสประเภทหนึ่งที่สร้างความรำคาญจิตใจและมีผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของคนที่เป็นได้ไม่น้อย โดยยิ่งไปกว่านั้นในตอนที่อาการแย่ลงซ้ำซ้อน ผู้ป่วยมักมีลักษณะแสบร้อน คัน หรือเจ็บรอบๆที่เกิดตุ่มใส เป็นต้นว่า ริมฝีปาก อวัยวะเพศ หรือส่วนอื่นๆของร่างกายที่เชื้อไวรัสสามารถซ่อนตัวอยู่ เมื่อร่างกายอ่อนแอ ภูมิต้านทานน้อยลง หรือมีเหตุกระตุ้น อย่างเช่น ความตึงเครียด พักไม่เพียงพอ หรือเป็นไข้ เชื้อไวรัสก็จะกลับมานำมาซึ่งการก่อให้เกิดอาการอีกรอบ ฉะนั้นผู้คนจำนวนมากจึงมองหาวิธีรักษาเริมด้วยตัวเองซึ่งสามารถทำเป็นง่าย ปลอดภัย และช่วยบรรเทาอาการได้อย่างมีคุณภาพ



คลิ๊กอ่านรายละเอียดได้จาก >> รักษาเริมด้วยตัวเอง https://www.poonrada.com/sickness/detail/207

สิ่งแรกที่ควรทำเมื่อมีอาการของเริมคือการสังเกตสัญญาณเริ่มให้ไวที่สุด เนื่องจากหากสามารถดูแลตนเองได้ตั้งแต่ทีแรกๆเริ่มที่มีลักษณะตึง คัน หรือแสบรอบๆที่จะเกิดตุ่มเริม จะช่วยชะลอการลุกลุกลามของเชื้อไวรัสและก็ลดระยะเวลาการเกิดอาการได้ การรักษาเริมด้วยตัวเองในระยะเริ่มต้นควรจะมุ่งเน้นที่การดูแลสุขลักษณะ การใช้สมุนไพรหรือแนวทางธรรมชาติที่มีฤทธิ์ต้านไวรัส รวมทั้งการดูแลร่างกายให้แข็งแรงอยู่เป็นประจำ เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เชื้อกลับมาออกอาการซ้ำบ่อยมาก

การประคบเย็นในช่วงที่มีลักษณะสามารถช่วยลดการอักเสบและก็บรรเทาอาการปวดแสบปวดร้อนก้าวหน้า โดยใช้ผ้าสะอาดห่อเจลเย็นหรือผ้าชุบน้ำเย็นประคบบริเวณที่เกิดตุ่มเริมวันละ 2-3 ครั้ง ทีละ 10-15 นาที แนวทางนี้ช่วยทำให้บริเวณที่ติดเชื้อเย็นลงรวมทั้งลดการระคายเคือง การดูแลความสะอาดของบริเวณที่ติดโรคเป็นอีกหัวข้อสำคัญ ควรจะล้างด้วยน้ำที่สะอาดแล้วก็สบู่อ่อนๆหลีกเลี่ยงการเกา แกะ หรือบีบตุ่มเริม เพราะเหตุว่าอาจส่งผลให้เชื้อแพร่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆและก็ติดโรคแบคทีเรียแทรกซ้อนได้ง่าย

การใช้สมุนไพรเป็นหนทางหนึ่งที่ช่วยทุเลาอาการของเริมและต้านเชื้อไวรัสได้ ได้แก่ ใบเสมหะพังพอนตัวเมียที่มีฤทธิ์ลดการอักเสบ ช่วยลดอาการบวมแดงแล้วก็รีบให้ตุ่มแห้งเร็วขึ้น หรือจะใช้ว่านหางจระเข้สดทาบางๆบริเวณที่เป็นเริมก็ได้เช่นกัน เพราะเหตุว่านหางจระเข้มีสารต้านไวรัสและก็ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวหนัง ทำให้แผลหายเร็วขึ้นโดยไม่ทิ้งรอยแผลเป็น สำหรับผู้ที่ต้องการเสริมการดูแลจากข้างใน ควรจะเน้นการทานอาหารที่ช่วยเสริมภูมิต้านทาน ยกตัวอย่างเช่น ผักใบเขียว ผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง แล้วก็กินน้ำสะอาดให้พอเพียงในทุกวัน

อีกหนึ่งแนวทางที่ช่วยรักษาเริมด้วยตัวเองก้าวหน้าคือการเสริมภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในคนที่มีอาการกำเริบบ่อยครั้ง ควรที่จะใส่ใจหัวข้อการพักให้เพียงพออย่างต่ำวันละ 7-8 ชั่วโมง เลี่ยงความตึงเครียดหรือควบคุมความตึงเครียดด้วยกิจกรรมที่บรรเทาจิตใจ อาทิเช่น กำหนดใจ โยคะ หรือการเดินเล่นในที่ที่มีธรรมชาติ การออกกำลังกายเบาๆอย่างสม่ำเสมอ ได้แก่ เดินเร็วหรือปั่นจักรยาน ยังช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้ดิบได้ดีขึ้นแล้วก็ลดช่องทางที่เริมจะกำเริบเสิบสาน



ควรหลีกเลี่ยงของกินบางชนิดที่มีผลต่อการเจริญเติบโตของเชื้อไวรัส ตัวอย่างเช่น ช็อกโกแลต ถั่วดิน ถั่วเหลือง หรืออาหารที่มีกรดอะมิโนอาร์จินีนสูง เนื่องจากอาจกระตุ้นให้เชื้อไวรัสเริมทำงานมากขึ้น ช่วงเวลาเดียวกันก็ควรเพิ่มอาหารที่มีกรดอะมิโนไลซีนสูง อย่างเช่น ปลา นม ไข่ และโยเกิร์ต ซึ่งมีส่วนช่วยยั้งการเจริญของเชื้อไวรัสเริม

หากว่าเริมจะไม่สามารถรักษาให้หายสนิทได้อย่างถาวร เพราะเหตุว่าไวรัสยังคงแฝงตัวอยู่ในร่างกาย แม้กระนั้นการดูแลตนเองอย่างแม่นยำสามารถช่วยให้ผู้เจ็บป่วยควบคุมอาการก้าวหน้า ลดการกลับมาเป็นซ้ำ และก็ดำเนินชีวิตได้อย่างเป็นปกติ การมีวินัยสำหรับการดูแลสุขภาพของตัวเองทั้งยังในด้านการกินการอยู่ พัก และอารมณ์ก็เลยเป็นส่วนสำคัญของการควบคุมโรคนี้ให้สงบยาวนาน

ถ้าเกิดอาการของเริมรุนแรงหรือเกิดขึ้นซ้ำบ่อยเกินไป การหารือแพทย์หรือผู้ที่มีความชำนาญด้านสมุนไพรเพื่อรับการรักษาเสริมก็เป็นช่องทางที่เหมาะสม โดยเฉพาะในเรื่องที่เริมเกิดรอบๆอวัยวะเพศหรือดวงตา เพราะอาจมีภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงตามมาได้ ด้วยเหตุนั้นถึงแม้ว่าการรักษาเริมด้วยตัวเองจะช่วยทุเลาอาการได้ในหลายกรณี แม้กระนั้นก็ไม่สมควรละเลยการคาดคะเนอาการอย่างใกล้ชิดและใช้แนวทางที่เหมาะสมกับสภาพร่างกายของแต่ละบุคคลร่วมด้วย



เมื่อสามารถดูแลตัวเองได้อย่างสม่ำเสมอและเหมาะสม การเกิดเริมซ้ำจะน้อยลง ความร้ายแรงของอาการจะลดน้อยลง และคนเจ็บก็สามารถดำรงชีวิตได้อย่างมั่นใจมากขึ้นเรื่อยๆ การใส่ใจสุขภาพจากข้างในก็เลยเป็นกุญแจสำคัญสำหรับการควบคุมเริมอย่างยั่งยืน ถ้าคุณมีลัษณะทิศทางที่จะเป็นเริมเสมอๆการเรียนวิธีต่อกรแล้วก็ดูแลรักษาเริมด้วยตัวเองนับว่าเป็นสิ่งจำเป็นที่ควรจะให้ความใส่ใจตั้งแต่วันนี้



 Source: บทความ รักษาเริมด้วยตัวเอง https://www.poonrada.com/sickness/detail/207