📌👉✅การทดลอง Field Density Test เป็นการทดลองที่สำคัญในงานวิศวกรรมโยธา โดยเฉพาะสำหรับเพื่อการก่อสร้างองค์ประกอบเบื้องต้น ดังเช่น ถนน สะพาน และโครงสร้างรองรับของอาคาร เพื่อมั่นใจว่าดินที่ใช้สำหรับการกลบมีความหนาแน่นพอเพียงที่จะรองรับน้ำหนักของโครงสร้าง การทดสอบ Field Density Test มีหลายวิธี แต่ว่าหนึ่งในวิธีที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ Sand Cone Method เนื้อหานี้จะอธิบายว่าเพราะอะไรการทดลอง Field Density Test ก็เลยนิยมใช้วิธี Sand Cone Method
(https://scontent.fbkk5-5.fna.fbcdn.net/v/t39.30808-6/327418206_552682483456848_6737127727343927565_n.jpg?stp=cp6_dst-jpg&_nc_cat=100&ccb=1-7&_nc_sid=127cfc&_nc_eui2=AeGBlyKK2CcB8p6qaNpr99gBG2hvk7RnI2wbaG-TtGcjbPE2bOzoRnVii0uZrSXJP7VdhA2gQzfl_gPtveMClI-n&_nc_ohc=I6ErTziL3d4Q7kNvgERlkMe&_nc_ht=scontent.fbkk5-5.fna&oh=00_AYCvhpqwOcXJ2H35n70EBGdipvBKr7Ebu7a1LlB0y4maoQ&oe=66B82284)
✅✨👉Sand Cone Method เป็นยังไง👉📌📢🥇🥇🌏Sand Cone Method เป็นขั้นตอนการ
ทดสอบความหนาแน่นของดิน (https://medium.com/@ktset1779/field-density-test-%E0%B8%97%E0%B8%94%E0%B8%AA%E0%B8%AD%E0%B8%9A%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B9%81%E0%B8%99%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%94%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A1-e15f65ecbbbd)ในสนามโดยการใช้ทรายสำหรับในการวัดปริมาตรของหลุมที่ขุดขึ้นในดิน แนวทางลักษณะนี้มีขั้นตอนง่ายและก็สามารถให้ผลการทดสอบที่ถูกต้อง กรรมวิธีการทดสอบมีการขุดหลุมในดิน เติมทรายลงในหลุม และก็วัดปริมาณทรายที่ใช้เพื่อหาค่าความหนาแน่นของดินที่ถูกกลบลง
Quoteบริการ Soil Test | บริษัท เอ็กซ์เพิร์ท ซอยล์ เซอร์วิส แอนด์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด
บริษัท ทดสอบดิน บริการ Boring Test วิเคราะห์และทดสอบคุณสมบัติทางด้านวิศวกรรมปฐพีของดิน ทดสอบเสาเข็ม (Seismic Test)
👉 Tel: 064 702 4996
👉 Line ID: @exesoil (https://line.me/ti/p/%40exesoil)
👉 Facebook: https://www.facebook.com/exesoiltest/
🎯🛒🌏ขั้นตอนการทดลองด้วย Sand Cone Method✅📌✅📢1. การเตรียมพื้นที่ทดลอง
📌ชำระล้างพื้นผิวที่ปรารถนาทดลองแล้วก็จัดเตรียมเครื่องไม้เครื่องมือที่จำเป็น เป็นต้นว่า กรวยทราย ขวดทราย และก็เครื่องชั่งน้ำหนัก
📌2. การขุดหลุมทดสอบ
📌ขุดหลุมในดินที่อยากได้ทดลอง โดยมีขนาดและความลึกตามกำหนด เพื่อให้การทดสอบมีความแม่นยำ ควรใช้วัสดุที่มีความแม่นยำในการขุด
🎯3. การเติมทรายลงในหลุม
✨วางกรวยทรายลงบนหลุมและเปิดให้ทรายไหลลงไปในหลุมจนกระทั่งเต็ม การเติมทรายนี้จำเป็นต้องทำอย่างถี่ถ้วนเพื่อไม่ให้ทรายหกหรือเสียหาย
🌏4. การประมาณจำนวนทรายที่ใช้
🦖วัดน้ำหนักของทรายที่เหลือในขวดและก็คำนวณจำนวนทรายที่ใช้เพื่อการเพิ่มหลุม แล้วหลังจากนั้นใช้ข้อมูลนี้ในการคำนวณความหนาแน่นของดิน
🦖📌⚡เหตุผลที่นิยมใช้ Sand Cone Method🌏🦖🛒🛒1. ความแม่นยำในการทดสอบ
🛒Sand Cone Method เป็นวิธีที่สามารถให้ผลการทดลองที่แม่นรวมทั้งเชื่อถือได้ การใช้ทรายสำหรับเพื่อการวัดขนาดของหลุมช่วยให้สามารถตรวจดูความหนาแน่นของดินได้อย่างพิถีพิถันและก็ถูก
📌2. เครื่องมือและกรรมวิธีการที่ไม่ซับซ้อน
🎯วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้เพื่อสำหรับการทดสอบ Sand Cone Method มีราคาถูกรวมทั้งหาง่าย ดังเช่น กรวยทราย ขวดทราย แล้วก็เครื่องชั่งน้ำหนัก การทดสอบนี้ไม่จำเป็นที่จะต้องใช้เทคโนโลยีขั้นสูงหรือเครื่องมือที่สลับซับซ้อน ทำให้สามารถทำงานทดลองได้ง่ายรวมทั้งรวดเร็ว
✨3. ความสะดวกสำหรับในการทำงานทดสอบ
⚡การทดลอง Sand Cone Method สามารถดำเนินงานได้ในสถานที่ก่อสร้างโดยไม่ต้องย้ายแบบอย่างดินไปยังห้องปฏิบัติการ แนวทางลักษณะนี้ช่วยลดเวลารวมทั้งค่าใช้จ่ายสำหรับเพื่อการทดลอง ทำให้เหมาะกับการตรวจสอบประสิทธิภาพของดินในสนาม
🦖4. การยินยอมรับในมาตรฐานสากล
⚡Sand Cone Method เป็นแนวทางที่ได้รับการยอมรับในมาตรฐานสากล ดังเช่น ASTM (American Society for Testing and Materials) และ AASHTO (American Association of State Highway and Transportation Officials) การใช้แนวทางนี้ช่วยทำให้ผลการทดสอบมีความน่านับถือและก็สามารถเปรียบเทียบกับมาตรฐานได้
🥇5. การประยุกต์ใช้ในนานัปการสิ่งแวดล้อม
👉Sand Cone Method สามารถใช้สำหรับการทดสอบความหนาแน่นของดินในสภาพแวดล้อมที่นานัปการ ไม่ว่าจะเป็นดินทราย ดินเหนียว หรือดินที่มีความชุ่มชื้นสูง การที่สามารถปรับใช้ในสิ่งแวดล้อมต่างๆได้ทำให้วิธีการแบบนี้เป็นที่ชื่นชอบในงานก่อสร้างที่นานัปการ
🌏👉🛒ข้อสรุป🥇🎯🌏✅👉🌏การทดลอง Field Density Test ด้วยแนวทาง Sand Cone Method เป็นแนวทางที่ได้รับความนิยมด้วยเหตุว่าความเที่ยงตรงสำหรับเพื่อการทดสอบ อุปกรณ์รวมทั้งกรรมวิธีการที่ไม่ซับซ้อน ความสบายสำหรับเพื่อการทำงานทดลอง รวมทั้งการยอมรับในมาตรฐานสากล การทดสอบนี้ช่วยทำให้วิศวกรสามารถประเมินคุณภาพของดินที่ใช้ในลัษณะของการถมในโครงงานก่อสร้างได้อย่างมีคุณภาพรวมทั้งเชื่อถือได้ ทำให้การก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานมีความมั่นคงและยั่งยืนรวมทั้งไม่มีอันตราย