ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN

ในฐานะพ่อแม่รู้ดีว่าการสอนลูกให้มีความรับผิดชอบและควบคุมตนเองเป็นส่วนสำคัญในการเลี้ยงดูให้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีสุขภาพแข็งแรงและรอบรู้ สามารถช่วยลูกๆของเธอเรียนรู้วิธีการเป็นเจ้าของการกระทำของตนเองและพัฒนาทักษะชีวิตอันมีค่าผ่านการใช้การเสริมแรงเชิงบวกและคำแนะนำที่สร้างสรรค์

ขั้นตอนแรกใน การสอนความรับผิดชอบ และการควบคุมตนเองแก่เด็กคือการเป็นแบบอย่างที่ดี Jessie Mum ควรทำตัวเป็นแบบอย่าง แสดงให้ลูกๆ ของเธอเห็นว่าการทำงานต่างๆเป็นอย่างไร มีระเบียบ และจัดการเวลาอย่างมีประสิทธิภาพเธอยังต้องทำให้แน่ใจว่าเธอปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาของเธอเอง เมื่อลูกๆเห็นเธอรับผิดชอบตัวเอง พวกเขาก็มีแนวโน้มที่จะทำเช่นเดียวกัน

อีกวิธีหนึ่งที่ Jessie Mum สามารถสอนความรับผิดชอบและการควบคุมตนเองคือการตั้งความคาดหวังและให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนสิ่งสำคัญคือเธอต้องร่างกฎของบ้านล่วงหน้าเพื่อให้ลูก ๆของเธอรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น นอกจากนี้เธอควรทำให้แน่ใจว่าได้ปฏิบัติตามเมื่อไม่เป็นไปตามความคาดหวังซึ่งจะเป็นการตอกย้ำความสำคัญของการปฏิบัติตามความคาดหวังเหล่านี้ในอนาคต

Jessie Mum ยังสามารถกระตุ้นลูกๆ ของเธอให้รับผิดชอบด้วยการชมเชยความสำเร็จและให้รางวัลสำหรับการทำงานให้สำเร็จหรือแสดงพฤติกรรมที่ดีรับรู้ถึงความพยายามใดๆ ที่พวกเขาทำเพื่อช่วยงานบ้านหรือจัดการกับสถานการณ์ที่ยากลำบากด้วยความรับผิดชอบสิ่งนี้จะตอกย้ำแนวคิดที่ว่าความรับผิดชอบมาพร้อมกับชุดของรางวัลในตัวเอง

สุดท้ายนี้ควรให้ลูกๆ ของเธอมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาทุกครั้งที่ทำได้นี่เป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมสำหรับพวกเขาในการฝึกตัดสินใจด้วยความรับผิดชอบและความเป็นผู้ใหญ่ขอแนวคิดในการแก้ปัญหาใดๆ ที่เกิดขึ้นจากนั้นฟังอย่างตั้งใจและบอกให้พวกเขารู้ว่าคุณชื่นชมความคิดเห็นของพวกเขาการสอนการแก้ปัญหาจะช่วยสร้างความมั่นใจและส่งเสริมทักษะการตัดสินใจอย่างมีความรับผิดชอบ

การใช้กลยุทธ์เหล่านี้สามารถช่วยลูกๆ ของเธอเรียนรู้วิธีรับผิดชอบและควบคุมชีวิตของตนเองได้มากขึ้นด้วยความอดทนและความสม่ำเสมอ เธอสามารถปลูกฝังความรับผิดชอบในลูกๆของเธอซึ่งจะคงอยู่ไปจนโตเป็นผู้ใหญ่

อ้างอิงจาก
www.jessiemumkhunman.wordpress.com

กุญแจสู่การเป็นพ่อแม่ที่ประสบความสำเร็จ เป็นความจริงสากลที่ว่าการเลี้ยงดูสามารถท้าทายได้ ในฐานะพ่อแม่เราเข้าใจว่าเป็นความรับผิดชอบของเราที่จะต้องหล่อหลอมลูกของเราให้เป็นผู้ใหญ่ที่มีความรับผิดชอบและประสบความสำเร็จโดยการปลูกฝังค่านิยมเชิงบวกในตัวพวกเขาตั้งแต่อายุยังน้อยค่าบวกเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการพัฒนาอุปนิสัยของเด็กซึ่งจะกำหนดความสำเร็จในอนาคตของพวกเขา

ค่านิยมเชิงบวก เช่น ความซื่อสัตย์ ความเคารพ การเห็นอกเห็นใจกัน ความซื่อตรงความเมตตา และความอดทนเป็นคุณสมบัติทั้งหมดที่ควรสอนแก่เด็กตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นของชีวิตค่านิยมเหล่านี้เป็นพื้นฐานที่ทำให้เด็กเรียนรู้วิธีการโต้ตอบกับผู้อื่นและสร้างความสัมพันธ์พวกเขายังช่วยพัฒนาทักษะการสื่อสารที่ดีและส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหาที่แข็งแกร่ง

สิ่งสำคัญที่สุดอย่างหนึ่งของการเป็นพ่อแม่คือการเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับลูกของคุณเด็กๆ มักจะเลียนแบบพฤติกรรมที่พวกเขาสังเกตเห็นในพ่อแม่ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะแสดงให้พวกเขาเห็นว่าความซื่อสัตย์ ใจดีและความเคารพหมายความว่าอย่างไรสิ่งนี้เกี่ยวข้องกับการมีระเบียบวินัยอย่างสม่ำเสมอเมื่อจำเป็นแต่ยังแสดงความอดทนและความเข้าใจต่อลูกของคุณทุกครั้งที่ทำได้สิ่งสำคัญคือคุณต้องแสดงความรักต่อลูกของคุณอย่างเปิดเผยและสม่ำเสมอสิ่งนี้จะช่วยให้พวกเขารู้สึกปลอดภัยและได้รับการยอมรับในสภาพแวดล้อมที่บ้าน

นอกจากการเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับลูกของคุณแล้วการสอนค่านิยมเชิงบวกให้กับพวกเขายังต้องอาศัยความทุ่มเทจากพ่อแม่ด้วยการตั้งกฎเกี่ยวกับพฤติกรรมที่ยอมรับได้ช่วยให้เด็กเข้าใจถึงสิ่งที่คาดหวังจากพวกเขาสิ่งนี้ควรมาพร้อมกับคำชมเสมอเมื่อพวกเขาพยายามหรือแสดงพฤติกรรมเชิงบวกคุณควรทำงานอย่างหนักเพื่อให้แน่ใจว่าลูกของคุณเข้าใจผลที่ตามมาของการเลือกที่ไม่ดีหรือพฤติกรรมที่ไม่ดีด้วยวิธีนี้พวกเขาจะเรียนรู้ที่จะตัดสินใจได้ดีขึ้นในอนาคต

การใช้เวลาที่มีคุณภาพกับลูกของคุณเป็นสิ่งสำคัญอีกประการหนึ่งของการเป็นพ่อแม่ที่ช่วยเสริมสร้างค่านิยมเชิงบวกด้วยการทำกิจกรรมร่วมกัน เช่น อ่านนิทานหรือเล่นเกมคุณสามารถสอนบทเรียนเกี่ยวกับศีลธรรมให้กับลูกของคุณในขณะที่สนุกสนานไปพร้อมกันได้นอกจากนี้ ใช้ทุกโอกาสที่คุณสามารถพูดคุยกับลูกของคุณเกี่ยวกับความรู้สึกของพวกเขาสิ่งนี้จะช่วยให้พวกเขาเข้าใจอารมณ์ได้ดีขึ้นและเรียนรู้วิธีแสดงออกอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

สุดท้าย อย่าลืมว่าการเป็นพ่อแม่ไม่ใช่แค่การทำตามกฎเท่านั้นแต่คือการมอบความรักอย่างไม่มีเงื่อนไขและการสนับสนุนสำหรับบุตรหลานของคุณตลอดการเดินทางรับรู้ถึงความสำเร็จและความล้มเหลวของพวกเขาเฉลิมฉลองความสำเร็จของพวกเขาและให้กำลังใจพวกเขาแม้ว่าสิ่งต่าง ๆจะไม่เป็นไปตามแผน ท้ายที่สุดแล้วเป้าหมายของเราในฐานะพ่อแม่ควรเป็นการจัดหาเครื่องมือที่จำเป็นสำหรับลูกๆของเราในการเป็นผู้ใหญ่ที่มีความมั่นใจและประสบความสำเร็จซึ่งมีค่านิยมทางศีลธรรมและมาตรฐานทางจริยธรรมที่เข้มแข็ง

โดยสรุปแล้ว การปลูกฝังค่านิยมเชิงบวกให้กับลูก ๆของเราตั้งแต่อายุยังน้อยเป็นกุญแจสำคัญประการหนึ่งที่จะนำไปสู่การเป็นพ่อแม่ที่ประสบความสำเร็จการวางตัวอย่างที่ดีผ่านพฤติกรรมของเราเองและการทุ่มเทเวลาให้กับการสอนบทเรียนอันมีค่าเกี่ยวกับชีวิตแก่ลูกๆของเราเราสามารถจัดหาเครื่องมือที่จำเป็นสำหรับความสำเร็จทั้งในปัจจุบันและอนาคตให้กับพวกเขา

อ้างอิงจาก
www.jessiemumkhunman.wordpress.com

การให้นมบุตรเป็นกระบวนการทางธรรมชาติและสำคัญในการบำรุงเลี้ยงทารกแรกเกิด ทารกและวัยเตาะแตะ มันมีประโยชน์ไม่เพียง แต่สำหรับทารก แต่ยังดีต่อสุขภาพของแม่ด้วยในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีการให้ความสำคัญกับการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่มากขึ้นเนื่องจากมีประโยชน์มากมาย เช่น ให้สารอาหารที่จำเป็น สร้างภูมิคุ้มกันกระตุ้นพัฒนาการของสมอง และลดความเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยเพื่อให้แน่ใจว่ามารดามีประสบการณ์การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ที่ประสบความสำเร็จสิ่งสำคัญคือต้องได้รับข้อมูลและเตรียมความรู้และเครื่องมือที่เหมาะสมต่อไปนี้คือเคล็ดลับบางประการที่จะช่วยให้ประสบความสำเร็จในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่

ประการแรก สิ่งสำคัญคือต้องสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ซึ่งรวมถึงการหาเก้าอี้ที่สะดวกสบายซึ่งคุณสามารถนั่งได้อย่างสบายขณะให้นมลูกหรือใช้หมอนหรือเบาะรองนั่งเพื่อรองหลังเพื่อไม่ให้ปวดหลังหรือไหล่ขณะให้นมลูกน้อยการเข้าถึงสิ่งของพื้นฐานเช่นผ้าเช็ดปากและผ้าเช็ดทำความสะอาดจะทำให้ประสบการณ์สะดวกและสนุกสนานยิ่งขึ้นนอกจากนี้ การหาสถานที่เงียบสงบห่างไกลจากสิ่งรบกวนอาจเป็นประโยชน์ซึ่งคุณสามารถผ่อนคลายและมีสมาธิกับการป้อนนมลูกโดยไม่ต้องกังวลเรื่องอื่น

ประการที่สอง สร้างกิจวัตรสำหรับตัวคุณเองและลูกน้อยของคุณเมื่อต้องให้นมลูกซึ่งอาจรวมถึงการกำหนดเวลาเฉพาะในระหว่างวันสำหรับการให้อาหารและการหยุดพักระหว่างการให้นมตารางเวลาที่สม่ำเสมอช่วยให้ทั้งแม่และลูกปรับตัวได้ดีขึ้นและกระตุ้นให้พวกเขาผูกพันกันในช่วงเวลาพิเศษนี้ด้วยกันนอกจากนี้การจัดระเบียบยังช่วยให้คุณติดตามปริมาณนมที่ทารกดื่มในระหว่างการให้นมแต่ละครั้ง

ประการที่สาม เรียนรู้วิธีให้ลูกเข้าเต้าอย่างถูกวิธีการดูดนมที่ถูกต้องช่วยให้มั่นใจได้ว่าลูกน้อยของคุณจะได้รับนมอย่างเพียงพอในขณะที่ลดความไม่สบายหรือความเจ็บปวดที่อาจเกิดขึ้นระหว่างกระบวนการในการเริ่มต้นให้จับเต้านมด้วยมือข้างหนึ่งในขณะที่ใช้มืออีกข้างช่วยประคองปากของทารกไปยังบริเวณหัวนมของเต้านมการเล็งไปที่แก้มแทนที่จะเป็นริมฝีปากช่วยให้จับได้ถนัดคุณจะรู้ว่าลูกดูดนมได้ถูกต้องหรือไม่เมื่อคางของลูกแตะที่เต้านมและปากของลูกครอบคลุมบริเวณลานนมส่วนใหญ่รอบๆ หัวนม

ประการที่สี่ พิจารณาท่าต่างๆ ในการให้นมบุตร เพราะท่านี้จะช่วยให้สบายขึ้นในขณะเดียวกันก็ช่วยให้คุณเปลี่ยนท่าได้หากจำเป็นตลอดแต่ละเซสชัน ตัวอย่างเช่นการนอนโดยมีหมอนหนุนด้านใดด้านหนึ่งของร่างกายอาจง่ายกว่าการนั่งตัวตรงบนเก้าอี้สำหรับผู้ที่มีอาการปวดคอหรือหลังเมื่อให้นมลูกในท่าเดิมอีกทางหนึ่งการอุ้มลูกน้อยของคุณในท่าตั้งตรงกับหน้าอกของคุณอาจเหมาะสำหรับผู้ที่มีท่าทางไม่ดีหรือมีปัญหาเรื่องหลังเมื่อนั่งบนเก้าอี้เป็นระยะเวลานานระหว่างการให้นม

สุดท้าย รักษาความชุ่มชื้นด้วยการดื่มน้ำมากๆ ตลอดทั้งวันเพราะจะช่วยรักษาระดับการผลิตน้ำนมให้เพียงพอภายในร่างกายและป้องกันไม่ให้อาการขาดน้ำเกิดขึ้นบ่อยเกินไปการรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพที่เต็มไปด้วยอาหารและวิตามินที่มีคุณค่าทางโภชนาการสามารถช่วยรักษาระดับพลังงานให้เพียงพอตลอดการให้นมเนื่องจากสารอาหารเหล่านี้จะถูกถ่ายโอนผ่านทางน้ำนมเข้าสู่ร่างกายของทารกรวมทั้งทำให้ร่างกายของคุณแม่ได้รับการหล่อเลี้ยงและมีพลังตลอดเส้นทางการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่!

เมื่อทำตามคำแนะนำง่ายๆ เหล่านี้คุณแม่จะรู้สึกพร้อมและมั่นใจในความสามารถในการให้นมลูกโดยไม่รู้สึกหนักใจหรือท้อแท้ในระหว่างการเดินทาง!การให้นมลูกควรเป็นประสบการณ์ที่สนุกสนานที่สร้างสายสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างแม่และลูกดังนั้นหวังว่าเคล็ดลับเหล่านี้จะช่วยให้การเปลี่ยนแปลงนี้ราบรื่นยิ่งขึ้นสำหรับทุกคนที่เกี่ยวข้อง!

อ้างอิงจาก
www.jessiemumkhunman.wordpress.com

แม่และลูกมีสายสัมพันธ์พิเศษที่ไม่เหมือนสายสัมพันธ์ใดๆ ในโลกมารดามักจะรับบทบาทต่างๆ มากมายตลอดชีวิตของบุตร ตั้งแต่ผู้เลี้ยงดู ผู้เลี้ยงดูไปจนถึงครูและพี่เลี้ยงต่อไปนี้เป็นข้อเท็จจริงที่น่าสนใจเกี่ยวกับแม่และเด็กที่แสดงให้เห็นว่าความผูกพันนี้พิเศษเพียงใด

ข้อเท็จจริงที่น่าสนใจที่สุดประการหนึ่งเกี่ยวกับการเป็นแม่ก็คือสายสัมพันธ์ระหว่างแม่กับลูกเริ่มต้นตั้งแต่ก่อนคลอดในระหว่างตั้งครรภ์ ทารกมีความสามารถในการจดจำเสียงของแม่การศึกษายังแสดงให้เห็นว่าทารกสามารถสัมผัสถึงอารมณ์ของมารดาได้ในขณะที่อยู่ในครรภ์ซึ่งส่งผลต่อพัฒนาการทางอารมณ์ของตนเองแม้ว่าจะคลอดออกมาแล้วก็ตาม

ข้อเท็จจริงที่น่าสนใจอีกประการเกี่ยวกับแม่และเด็กก็คือแม่รู้โดยสัญชาตญาณว่าลูกต้องการเมื่อใดการวิจัยพบว่าอัตราการเต้นของหัวใจของมารดาเพิ่มขึ้นเมื่อทารกร้องไห้และเธอสามารถแยกแยะเสียงร้องของทารกจากเสียงร้องของทารกคนอื่นๆ ได้สัญชาตญาณตามธรรมชาตินี้ทำให้มารดาสามารถตอบสนองความต้องการของทารกได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

ในที่สุดมีการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายหลายอย่างที่เกิดขึ้นในร่างกายของผู้หญิงในระหว่างตั้งครรภ์หนึ่งในการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้คือปริมาณฮอร์โมนที่ร่างกายปล่อยออกมาเพิ่มขึ้นซึ่งช่วยสร้างความผูกพันทางอารมณ์ระหว่างแม่กับลูกฮอร์โมนออกซิโทซินยังมีบทบาทในการสร้างสายสัมพันธ์ระหว่างแม่และลูกเนื่องจากช่วยส่งเสริมความรู้สึกรักและผูกพัน

นี่เป็นเพียงข้อเท็จจริงที่น่าสนใจเกี่ยวกับแม่และเด็กเห็นได้ชัดว่าสายสัมพันธ์ระหว่างแม่กับลูกนั้นไม่มีใครเหมือน เต็มไปด้วยความรักการสนับสนุน ความเข้าใจ และการปกป้อง

อ้างอิงจาก
www.jessiemomtoyou.blogspot.com